Position:home  

เนื้อพิคานย่า: ราชาแห่งเนื้อย่าง ที่จะทำให้คุณน้ำลายไหล

เนื้อพิคานย่าคือส่วนหนึ่งของเนื้อวัวที่อยู่บริเวณด้านบนสุดของก้นวัว มีลักษณะเป็นเนื้อนุ่มฉ่ำ มีไขมันแทรกเล็กน้อย ทำให้มีรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชื่นชอบเนื้อย่างทั่วโลก

ในประเทศไทย เนื้อพิคานย่ามักเรียกกันว่า "เนื้อสามชั้น" เนื่องจากมีชั้นไขมันแทรกอยู่ระหว่างชั้นเนื้อ ทำให้เนื้อนุ่มละลายในปาก และมีรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น

คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อพิคานย่า

เนื้อพิคานย่าอุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย เช่น

  • โปรตีน: ประมาณ 20 กรัมต่อ 100 กรัม
  • ไขมัน: ประมาณ 15 กรัมต่อ 100 กรัม (โดยเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน)
  • ธาตุเหล็ก: ประมาณ 3 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
  • สังกะสี: ประมาณ 5 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
  • วิตามินบี 12: ประมาณ 2 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม

นอกจากนี้ เนื้อพิคานย่ายังมีสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ไนอาซิน ไรโบฟลาวิน และวิตามินอี

picanha

เนื้อพิคานย่า: ราชาแห่งเนื้อย่าง ที่จะทำให้คุณน้ำลายไหล

ประโยชน์ของการรับประทานเนื้อพิคานย่า

การรับประทานเนื้อพิคานย่าในปริมาณที่เหมาะสมสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น

  • ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ: เนื้อพิคานย่าอุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
  • ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง: เนื้อพิคานย่ามีธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย
  • ช่วยบำรุงระบบประสาท: เนื้อพิคานย่ามีวิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของระบบประสาท
  • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: ไขมันในเนื้อพิคานย่าส่วนใหญ่เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL)
  • ช่วยซ่อมแซมเซลล์: เนื้อพิคานย่ามีซิงค์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเซลล์

วิธีการปรุงเนื้อพิคานย่าอย่างถูกวิธี

การปรุงเนื้อพิคานย่าอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ได้เนื้อย่างที่อร่อยและนุ่มละลายในปาก มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อพิคานย่า

วัสดุที่ต้องเตรียม

  • เนื้อพิคานย่า 1 กิโลกรัม
  • เกลือและพริกไทยดำป่น
  • น้ำมันมะกอก

วิธีทำ

  1. ล้างเนื้อพิคานย่าให้สะอาด แล้วซับให้แห้งด้วยกระดาษซับน้ำ
  2. โรยเกลือและพริกไทยดำป่นให้ทั่วเนื้อ
  3. ทาน้ำมันมะกอกให้ทั่วเนื้อบางๆ
  4. นำเนื้อวางในถาดอบหรือกระทะที่ทาด้วยน้ำมัน แล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
  5. อบเนื้อเป็นเวลาประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าด้านนอกของเนื้อเริ่มเป็นสีน้ำตาลทอง
  6. นำเนื้อออกจากเตาอบ แล้วห่อด้วยฟอยล์แล้วพักไว้เป็นเวลา 15 นาที ก่อนจะหั่นเป็นชิ้นและเสิร์ฟ

สูตรเมนูเนื้อพิคานย่ายอดนิยม

เนื้อพิคานย่าสามารถนำไปปรุงเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น

  • พิคานย่าเสียบไม้: นำเนื้อพิคานย่ามาตัดเป็นชิ้นแล้วเสียบไม้ แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านหรือกระทะย่าง
  • พิคานย่าสเต็ก: นำเนื้อพิคานย่ามาทาเกลือและพริกไทย จากนั้นนำไปย่างหรือผัดบนกระทะจนสุกตามระดับความสุกที่ต้องการ
  • พิคานย่าอบในเตา: นำเนื้อพิคานย่าไปหมักกับเครื่องเทศต่างๆ จากนั้นนำไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสเป็นเวลาประมาณ 30-45 นาที หรือจนกว่าเนื้อสุกตามต้องการ

เคล็ดลับการเลือกเนื้อพิคานย่าที่อร่อย

เพื่อให้ได้เนื้อพิคานย่าที่อร่อยที่สุด ควรเลือกเนื้อที่มีลักษณะดังนี้

  • มีสีแดงสด มีไขมันแทรกเป็นชั้นบางๆ ทั่วทั้งชิ้น
  • มีกลิ่นหอม เนื้อแน่น ไม่เหนียว
  • เนื้อไม่ช้ำหรือมีรอยฟกช้ำ

ตารางเปรียบเทียบระดับความสุกของเนื้อพิคานย่า

ระดับความสุก อุณหภูมิภายในเนื้อเมื่อวัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์ ลักษณะของเนื้อ
Rare (ดิบ) 45-50 องศาเซลเซียส เนื้อจะเป็นสีแดงสด มีน้ำสีชมพูออกมาเมื่อหั่น
Medium-rare (เกือบดิบ) 55-60 องศาเซลเซียส เนื้อจะเป็นสีชมพู มีน้ำสีชมพูอ่อนออกมาเมื่อหั่น
Medium (สุกปานกลาง) 63-68 องศาเซลเซียส เนื้อจะเป็นสีชมพูอมเทา มีน้ำใสออกมาเมื่อหั่น
Medium-well (สุกเกือบสุก) 71-77 องศาเซลเซียส เนื้อจะเป็นสีน้ำตาล มีน้ำใสออกมาเมื่อหั่น
Well-done (สุก) 77 องศาเซลเซียสขึ้นไป เนื้อจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ไม่มีน้ำออกมาเมื่อหั่น

ตารางโภชนาการของเนื้อพิคานย่า (ต่อ 100 กรัม)

สารอาหาร ปริมาณ
พลังงาน 209 กิโลแคลอรี
โปรตีน 20 กรัม
ไขมัน 15 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม
ธาตุเหล็ก 3 มิลลิกรัม
สังกะสี 5 มิลลิกรัม
วิตามินบี 12 2 ไมโครกรัม

ตารางแร่ธาตุและวิตามินในเนื้อพิคานย่า (ต่อ 100 กรัม)

แร่ธาตุ/วิตามิน ปริมาณ
แคลเซียม 12 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 364 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 26 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 185 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 11 ไมโครกรัม
วิตามินอี 0.5 มิลลิกรัม
วิตามินเค 2 ไมโครกรัม

สรุป

เนื้อพิคานย่าเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อวัวที่มีความอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง การรับประทานเนื้อพิคานย่าในปริมาณที่เหมาะสมสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยบำรุงระบบประสาท หากปรุงอย่างถูกวิธีจะได้เนื้อย่างที่อร่อยและนุ่มละลายในปาก

Time:2024-09-07 12:50:07 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss