678: กฎแห่งความสำเร็จที่คุณต้องรู้

รู้จักกับ 678

678 เป็นกฎแห่งความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์แล้วโดยนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาตนเองทั่วโลก กฎนี้แสดงให้เห็นว่า 80% ของผลลัพธ์ที่ได้มาจากการกระทำ 20% ของสาเหตุ หรือพูดง่ายๆ ก็คือความพยายามที่สำคัญที่สุดของเราเพียง 20% เท่านั้นที่สร้างผลลัพธ์ 80% ที่เราได้รับ

หลักการของ 678

หลักการของ 678 อาศัยความคิดที่ว่าแทนที่จะกระจายความพยายามอย่างเท่าเทียมกันในหลายๆ ด้าน เราควรเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุด 20% ที่สำคัญที่สุด ซึ่งต่อไปนี้คือหลักการพื้นฐานของ 678:

• ระบุภารกิจที่มีผลกระทบสูงสุด: ก่อนอื่น คุณต้องระบุว่างานใดที่สำคัญและมีผลกระทบต่อเป้าหมายของคุณมากที่สุด ซึ่งมักจะเป็นงานที่ท้าทายที่สุดและต้องใช้ความพยายามมากที่สุด
• มุ่งเน้นไปที่ 20% ที่สำคัญที่สุด: เมื่อคุณระบุงานที่สำคัญที่สุดแล้ว ให้มุ่งเน้นไปที่การดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง โดยละเลยงานอื่นๆ ที่อาจสำคัญน้อยกว่า
• ทุ่มเทเวลาและทรัพยากร: เมื่อคุณทุ่มเทเวลาและทรัพยากรให้กับ 20% ที่สำคัญที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
• ตรวจสอบและปรับเปลี่ยน: เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องตรวจสอบความคืบหน้าของคุณอย่างสม่ำเสมอและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณตามความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุด

การประยุกต์ใช้ 678 ในชีวิตจริง

หลักการ 678 สามารถนำไปใช้ในหลายๆ ด้านของชีวิต รวมถึง:

• ธุรกิจ: ระบุลูกค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้มากที่สุดและเน้นไปที่การให้บริการหรือโปรโมตผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
• อาชีพ: ระบุทักษะหรือความรับผิดชอบที่สำคัญที่สุดและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและการใช้ทักษะเหล่านั้น
• การเงิน: ระบุแหล่งที่มาของรายได้หรือการลงทุนที่สร้างรายได้มากที่สุดและมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มรายได้เหล่านั้นหรือการลงทุนเพิ่มเติม
• สุขภาพ: ระบุอาหารหรือกิจกรรมทางกายที่ส่งเสริมสุขภาพมากที่สุดและมุ่งเน้นไปที่การรวมเข้าไว้ในตารางประจำวัน

ข้อดีของการใช้ 678

การใช้หลักการ 678 มีข้อดีหลายประการ รวมถึง:

• ประหยัดเวลาและทรัพยากร: โดยการมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุด คุณสามารถประหยัดเวลาและทรัพยากรที่อาจถูกใช้ไปกับงานที่สำคัญน้อยกว่า
• ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น: การมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญที่สุดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เพราะคุณกำลังทุ่มเทความพยายามมากที่สุดให้กับงานที่สำคัญที่สุด
• ความพึงพอใจในงานที่มากขึ้น: เมื่อคุณมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุด คุณจะรู้สึกพึงพอใจกับงานของคุณมากขึ้น เนื่องจากคุณจะได้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
• การเติบโตส่วนบุคคล: การมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จ

กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ

ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพบางประการที่สามารถช่วยให้คุณนำหลักการ 678 ไปใช้ในชีวิตของคุณ:

• สร้างรายการงาน: สร้างรายการงานทั้งหมดที่คุณต้องทำและจัดอันดับงานจากงานที่สำคัญที่สุดไปยังงานที่สำคัญน้อยที่สุด
• กำหนดเวลา: กำหนดเวลาสำหรับงานแต่ละงานในรายการและมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญที่สุดก่อน
• กำจัดสิ่งรบกวน: หากิจกรรมที่ทำให้คุณเสียสมาธิและหาวิธีกำจัดกิจกรรมเหล่านั้นออกไป เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดได้อย่างเต็มที่
• 委託งาน: หากเป็นไปได้ ให้委託งานที่สำคัญน้อยกว่าให้ผู้อื่นทำ เพื่อให้คุณสามารถทุ่มเทความพยายามให้กับงานที่มีผลกระทบสูงสุดได้อย่างเต็มที่
• ติดตามความคืบหน้า: ตรวจสอบความคืบหน้าของคุณอย่างสม่ำเสมอและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณตามความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุด

เคล็ดลับและเทคนิค

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับและเทคนิคบางประการที่สามารถช่วยให้คุณนำหลักการ 678 ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น:

• ใช้กฎ 80/20: กฎ 80/20 ระบุว่า 80% ของผลลัพธ์มาจาก 20% ของสาเหตุ ดังนั้นให้มุ่งเน้นไปที่การระบุและการมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุด 20%
• ใช้หลักการพาเรโต: หลักการพาเรโตเป็นแนวคิดที่คล้ายกับกฎ 80/20 ซึ่งระบุว่า 80% ของผลลัพธ์มาจาก 20% ของปัจจัยปัจจัย ดังนั้นให้มุ่งเน้นไปที่การระบุและการควบคุมปัจจัยที่มีผลกระทบสูงสุด 20%
• ใช้เทคนิคการแบ่งงาน: แบ่งงานที่มีขนาดใหญ่เป็นงานที่เล็กกว่าและจัดการทีละอย่าง เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดได้ง่ายขึ้น
• ใช้เทคนิค Pomodoro: เทคนิค Pomodoro เป็นเทคนิคการจัดการเวลาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แล้วพักเป็นระยะๆ เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดได้อย่างเต็มที่

ตารางที่มีประโยชน์

ตารางต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างการนำหลักการ 678 ไปใช้ในด้านต่างๆ ของชีวิต:

ข้อดีและข้อเสีย

เหมือนกับกลยุทธ์อื่นๆ 678 ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา:

ข้อดี:

• ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น: การมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
• ประหยัดเวลาและทรัพยากร: การมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดจะช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรที่อาจถูกใช้ไปกับงานที่สำคัญน้อยกว่า
• ความพึงพอใจในงานที่มากขึ้น: การมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดจะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจกับงานของคุณมากขึ้น
• การเติบโตส่วนบุคคล: การมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จ

ข้อเสีย:

• ความยากลำบากในการระบุงานที่มีผลกระทบสูงสุด: อาจเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่างานใดที่สำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จของคุณ
• ความท้าทายในการรักษาความสม่ำเสมอ: การรักษาความสม่ำเสมอและการมุ่งเน้นไปที่งานที่มีผลกระทบสูงสุดอาจเป็นเรื่องท้าทาย
• ความเสี่ยงของการละเลยงานอื่นๆ: การมุ่งเน้นไปที่งานที่มี