Position:home  

ขนมโก๋ สูตรโบราณ แสนอร่อย ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน

ขนมโก๋ เป็นขนมพื้นบ้านโบราณของไทยที่มีมาแต่โบราณ นิยมทำกันในงานเทศกาลต่างๆ เช่น งานบุญและงานแต่งงาน ขนมชนิดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ แป้งนุ่ม เหนียว หวานเล็กน้อย มีกลิ่นหอมใบเตย สีเขียวสดใส นอกจากนี้ขนมโก๋ยังมีความหมายดีๆ อีกด้วย เช่น คำว่า "โก๋" หมายถึง คนเก่งหรือคนที่มีความสามารถ จึงนิยมทำขนมชนิดนี้เพื่อให้ผู้ที่รับประทานประสบความสำเร็จในชีวิต

ส่วนผสม

  • แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
  • กะทิ 500 มิลลิลิตร
  • น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 200 กรัม
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • ใบเตย 10 ใบ
  • น้ำมันพืชสำหรับทาพิมพ์

วิธีทำ

  1. ล้างใบเตยแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำใบเตยที่หั่นแล้วไปปั่นกับน้ำเปล่าให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำใบเตย
  2. ผสมแป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำใบเตยลงในภาชนะแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ เติมกะทิลงไปนวดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี แป้งจะต้องไม่เหลวหรือแข็งจนเกินไป
  3. นำผ้าขาวบางมาชุบน้ำแล้วปิดภาชนะเพื่อพักแป้งไว้ประมาณ 30 นาที
  4. หลังจากพักแป้งแล้ว นำแป้งมาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ แล้วปั้นเป็นรูปต่างๆ ตามต้องการ
  5. ทาพิมพ์ขนมด้วยน้ำมันพืชแล้วนำขนมที่ปั้นแล้วลงไปวางในพิมพ์
  6. นำพิมพ์เข้าเตานึ่งที่เตรียมไว้แล้ว รอจนขนมสุก (สังเกตได้จากแป้งขนมใสขึ้น) ประมาณ 15-20 นาที

เคล็ดลับ

  • เพื่อให้ขนมโก๋มีสีเขียวสดใส ให้เลือกใช้ใบเตยสดที่เขียวเข้มและไม่แก่เกินไป
  • หากไม่มีใบเตยสด สามารถใช้ใบเตยแห้งหรือกะทิผงปรุงแต่งกลิ่นใบเตยแทนได้
  • ควรนวดแป้งให้เข้ากันดีเพื่อให้ขนมเนื้อเนียนนุ่ม
  • อย่าใส่น้ำในแป้งมากเกินไปเพราะจะทำให้ขนมแฉะและไม่น่ารับประทาน
  • ควรนึ่งขนมให้สุกพอดี เพื่อให้ขนมมีเนื้อนุ่ม เหนียว และไม่แข็งกระด้าง

ประโยชน์ของขนมโก๋

ขนมโก๋ นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เนื่องจากทำจากแป้งข้าวเหนียวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มาดูกันว่าขนมโก๋มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

  1. ให้พลังงานสูง ขนมโก๋มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูง จึงให้พลังงานได้ดี เหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารว่างเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
  2. มีวิตามินและแร่ธาตุ ขนมโก๋ทำจากแป้งข้าวเหนียวที่มีวิตามินและแร่ธาตุอยู่มากมาย เช่น วิตามินอี วิตามินบี1 วิตามินบี2 เหล็กและแคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่างๆ
  3. ช่วยระบบย่อยอาหาร ขนมโก๋มีไฟเบอร์สูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้อิ่มท้องนานและช่วยลดอาการท้องผูก
  4. ลดระดับน้ำตาลในเลือด แป้งข้าวเหนียวมีดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ช้ากว่าแป้งที่มีดัชนีน้ำตาลสูง ทำให้ขนมโก๋เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือต้องการควบคุมน้ำหนัก

คุณค่าทางโภชนาการของขนมโก๋

ขนมโก๋ 1 ชิ้น (ประมาณ 100 กรัม) ให้คุณค่าทางโภชนาการดังนี้

ขนมโก๋

สารอาหาร ปริมาณ
พลังงาน 350 แคลอรี่
โปรตีน 5 กรัม
ไขมัน 1 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 80 กรัม
ไฟเบอร์ 2 กรัม
วิตามินอี 0.5 มิลลิกรัม
วิตามินบี1 0.1 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.2 มิลลิกรัม
เหล็ก 2 มิลลิกรัม
แคลเซียม 10 มิลลิกรัม

ตารางแสดงปริมาณสารอาหารในขนมโก๋

สารอาหาร ปริมาณ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 350 แคลอรี่
โปรตีน 5 กรัม
ไขมัน 1 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 80 กรัม
ไฟเบอร์ 2 กรัม
วิตามินอี 0.5 มิลลิกรัม
วิตามินบี1 0.1 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.2 มิลลิกรัม
เหล็ก 2 มิลลิกรัม
แคลเซียม 10 มิลลิกรัม

เทคนิคการเลือกซื้อขนมโก๋

เพื่อให้ได้ขนมโก๋ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ควรเลือกซื้อขนมโก๋จากร้านค้าที่เชื่อถือได้และมีสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ในการเลือกซื้อขนมโก๋

  1. สีสัน ขนมโก๋ที่ดีควรมีสีเขียวสดใส ไม่ซีดจางหรือมีสีคล้ำ
  2. กลิ่น ขนมโก๋ที่ดีควรมีกลิ่นหอมของใบเตย ไม่เหม็นเปรี้ยวหรือมีกลิ่นอื่นเจือปน
  3. รสชาติ ขนมโก๋ที่ดีควรมีรสชาติหวานเล็กน้อย ไม่หวานหรือเค็มจนเกินไป
  4. เนื้อสัมผัส ขนมโก๋ที่ดีควรมีเนื้อนุ่ม เหนียว ไม่แข็งกระด้างหรือแฉะ

วิธีการเก็บรักษาขนมโก๋

ขนมโก๋สามารถเก็บรักษาไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 2 วัน หรือสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 1 สัปดาห์ โดยให้ห่อขนมโก๋ด้วยพลาสติกแรปหรือใส่กล่องที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมแห้งหรือเสียรสชาติ

ข้อควรระวังในการรับประทานขนมโก๋

แม้ว่าขนมโก๋จะเป็นขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากขนมโก๋มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หากบริโภคมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนรับประทานขนมโก๋

ขนมโก๋ สูตรโบราณ แสนอร่อย ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน

ตารางสรุปการเปรียบเทียบขนมโก๋กับขนมชนิดอื่นๆ

ขนม พลังงาน (แคลอรี่) ต่อ 100 กรัม คาร์โบไฮเดรต (กรัม) ต่อ 100 กรัม ไขมัน (กรัม) ต่อ 100 กรัม
ขนมโก๋ 350 80 1
ขนมเปี๊ยะ 400 75 15
ขนมตาล 375 70 10
ขนมครก 360 70 12

ตารางสรุปข้อดีและข้อเสียของขนมโก๋

ข้อดี ข้อเสีย
ให้พลังงานสูง มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตและน้ำต
Time:2024-09-08 08:35:35 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss