พลังแห่ง S-Both: เสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนของไทย
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและท้าทาย บทบาทของนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืนมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา แนวคิด S-Both (Society Both Technology) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ทำไม S-Both ถึงมีความสำคัญ
เศรษฐกิจ: การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
- นวัตกรรมเป็นเครื่องยนต์หลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคิดเป็นประมาณ 80% ของการเติบโตของผลิตภาพในระยะยาว (OECD)
- การลงทุนในเทคโนโลยีและการวิจัยและพัฒนา (R&D) สร้างงานใหม่ที่มีทักษะสูงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- การพัฒนาที่ยั่งยืนช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาวโดยการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สังคม: การสร้างสังคมที่เป็นธรรมและครอบคลุม
- เทคโนโลยีสามารถให้การเข้าถึงบริการและโอกาสแก่ผู้ที่ด้อยโอกาสมากขึ้น เช่น การศึกษา การดูแลสุขภาพ และการบริการทางการเงิน
- การพัฒนาที่ยั่งยืนช่วยให้มั่นใจในคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต รวมถึงการเข้าถึงการศึกษา สุขภาพ และการเคหะที่เพียงพอ
- การมีส่วนร่วมของประชาชนและความเท่าเทียมทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างสังคมที่ครอบคลุม
ประโยชน์ของแนวทาง S-Both
แนวทาง S-Both มอบประโยชน์มากมายทั้งสำหรับธุรกิจและสังคมโดยรวม ได้แก่:
-
การเพิ่มการลงทุนในนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา: ธุรกิจตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนในเทคโนโลยีและการพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืนมากขึ้น
-
การสร้างตลาดใหม่และโอกาสในการทำงาน: เทคโนโลยีและการพัฒนาที่ยั่งยืนสร้างตลาดใหม่และโอกาสในการทำงานในด้านต่างๆ เช่น พลังงานหมุนเวียน รถยนต์ไฟฟ้า และการเกษตรอัจฉริยะ
-
การปรับปรุงความยั่งยืนและการลดความเสี่ยง: ธุรกิจที่นำแนวทาง S-Both มาใช้จะสามารถลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะขาดแคลนทรัพยากร และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
-
การเพิ่มความน่าเชื่อถือและการแข่งขันทางธุรกิจ: ผู้บริโภคและนักลงทุนให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจที่นำแนวทาง S-Both มาใช้จะได้เปรียบในด้านการแข่งขัน
ขั้นตอนการนำแนวทาง S-Both มาใช้
การนำแนวทาง S-Both มาใช้ต้องใช้แนวทางแบบองค์รวมซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้:
-
ประเมินโอกาส: ระบุพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีและการพัฒนาที่ยั่งยืน
-
พัฒนาโซลูชันเชิงนวัตกรรม: ร่วมมือกับพันธมิตรและหน่วยงานวิจัยเพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบสนองทั้งความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคม
-
สร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวย: สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนในนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างแรงจูงใจทางภาษีและเงินอุดหนุน
-
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: ตลอดกระบวนการ ให้มีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงภาคธุรกิจ ภาครัฐ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
-
ตรวจสอบและประเมินผล: ติดตามความคืบหน้าของโครงการ S-Both และประเมินผลอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
กรณีศึกษา
การนำแนวทาง S-Both มาใช้ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ตัวอย่างเช่น:
-
ในสิงคโปร์: โปรแกรม Smart Nation ได้บูรณาการเทคโนโลยีกับการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อสร้างเมืองที่น่าอยู่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
ในสหราชอาณาจักร: โครงการ Industrial Strategy มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีและการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งที่เท่าเทียมกัน
-
ในไทย: โครงการ มหานครอัจฉริยะ (Smart City) มุ่งพัฒนาเมืองที่มีคุณภาพชีวิตสูง โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่างแนวทาง S-Both และแนวทางแบบดั้งเดิม
คุณสมบัติ |
แนวทาง S-Both |
แนวทางแบบดั้งเดิม |
วัตถุประสงค์ |
การเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม |
การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลัก |
มุ่งเน้น |
นวัตกรรม เทคโนโลยี และความยั่งยืน |
การผลิต การบริโภค และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ |
การมีส่วนร่วม |
การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด |
การมีส่วนร่วมจากภาคธุรกิจเป็นหลัก |
ความยั่งยืน |
เป็นหัวใจสำคัญของแนวทาง |
เป็นข้อพิจารณาที่สำคัญ แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญสูงสุด |
ผลลัพธ์ |
การเติบโตอย่างยั่งยืน ความยั่งยืนทางสังคม และความมั่งคั่งที่เท่าเทียมกัน |
การเติบโตทางเศรษฐกิจระยะสั้นอาจไม่ยั่งยืน |
ข้อมูลเชิงลึก
-
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) รายงานว่าการลงทุนในนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนาคิดเป็นประมาณ 80% ของการเติบโตของผลิตภาพในระยะยาว
-
โปรแกรมการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เน้นย้ำว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนมีความจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
-
สภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ยกย่องแนวทาง S-Both ว่าเป็นวิธีที่จำเป็นสำหรับประเทศต่างๆ ในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน
ตารางข้อมูลการลงทุนในนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนาโดยประเทศ
ประเทศ |
การลงทุนในนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา (% ของ GDP) |
อิสราเอล |
5.3 |
สหรัฐอเมริกา |
2.8 |
ญี่ปุ่น |
2.1 |
เยอรมนี |
1.9 |
สหราชอาณาจักร |
1.7 |
ไทย |
0.6 |
คำถามที่พบบ่อย
1. แนวทาง S-Both แตกต่างจากแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) อย่างไร
แนวทาง S-Both ครอบคลุมกว่า CSR ซึ่งเน้นเฉพาะการตอบแทนสังคมของธุรกิจ แนวทาง S-Both รวมการพัฒนาที่ยั่งยืนและการลงทุนในนวัตกรรมเป็นแกนหลักของกลยุทธ์ทางธุรกิจ
2. สิ่งใดเป็นอุปสรรคในการนำแนวทาง S-Both มาใช้
อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ เงินทุนไม่เพียงพอ การขาดความร่วมมือ