Position:home  

เขื่อนวชิราลงกรณ์ : มรดกทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่เพื่อความยั่งยืนของชาติ

บทนำ

เขื่อนวชิราลงกรณ์ สิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่าที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแม่น้ำแควน้อย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอนุสรณ์แห่งพระมหากรุณาธิคุณที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย เขื่อนแห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าที่สำคัญของประเทศ แต่ยังทำหน้าที่ในการควบคุมน้ำ ป้องกันอุทกภัย และส่งเสริมการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอีกด้วย

ประวัติและความเป็นมา

การก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2514 โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2514 และพระราชทานชื่อเขื่อนว่า "วชิราลงกรณ์" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ (พระนามเดิม) รัชทายาทในขณะนั้น

การก่อสร้างดำเนินการโดยกรมชลประทาน ภายใต้การควบคุมดูแลของธนาคารโลก โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 5,185 ล้านบาท เขื่อนแล้วเสร็จและเริ่มผลิตไฟฟ้าเมื่อปี พ.ศ. 2524

เขื่อนวชิราลงกรณ์

ขนาดและโครงสร้าง

เขื่อนวชิราลงกรณ์เป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งแบบความดันคู่ มีความสูงจากฐานราก 91.45 เมตร ยาวตามสันเขื่อน 715 เมตร และมีความจุเก็บกักน้ำสูงสุด 8,850 ล้านลูกบาศก์เมตร

โครงสร้างเขื่อนประกอบด้วย :

  • ตัวเขื่อนคอนกรีต : ทำหน้าที่กั้นน้ำและรับแรงดันน้ำ
  • อาคารระบายน้ำล้น : ระบายน้ำส่วนเกินออกจากอ่างเก็บน้ำ
  • อาคารระบายน้ำทิ้ง : ระบายน้ำออกจากก้นอ่างเก็บน้ำ
  • สถานีผลิตไฟฟ้า : ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากน้ำที่ไหลผ่านกังหัน

ประโยชน์ของเขื่อนวชิราลงกรณ์

เขื่อนวชิราลงกรณ์มีประโยชน์หลากหลายต่อประเทศไทย ได้แก่ :

1. ผลิตพลังงานไฟฟ้า

เขื่อนวชิราลงกรณ์ : มรดกทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่เพื่อความยั่งยืนของชาติ

เขื่อนวชิราลงกรณ์มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 5 ชุด กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 720 เมกะวัตต์ คิดเป็น 80% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคตะวันตกของประเทศ

2. ควบคุมน้ำ

เขื่อนทำหน้าที่ควบคุมน้ำในแม่น้ำแควน้อยทั้งในฤดูน้ำมากและน้ำน้อย ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่าง และช่วยเพิ่มการไหลของน้ำในแม่น้ำในฤดูแล้ง

เขื่อนวชิราลงกรณ์ : มรดกทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่เพื่อความยั่งยืนของชาติ

3. ส่งเสริมการเกษตรกรรม

น้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ใช้ในการชลประทานพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 2 ล้านไร่ในจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และอุทัยธานี ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและรายได้ของเกษตรกร

4. ส่งเสริมการอุตสาหกรรม

การผลิตไฟฟ้าที่เสถียรจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันตกของประเทศ

5. การท่องเที่ยว

ความสวยงามตระการตาของเขื่อนวชิราลงกรณ์และบริเวณโดยรอบดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยี่ยมชม ก่อให้เกิดรายได้และสร้างงานในท้องถิ่น

การจัดการและบำรุงรักษา

กรมชลประทานเป็นหน่วยงานหลักในการจัดการและบำรุงรักษาเขื่อนวชิราลงกรณ์ โดยดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เขื่อนอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การบำรุงรักษาที่สำคัญ ได้แก่ :

  • ตรวจสอบโครงสร้างเขื่อนเป็นประจำเพื่อหาความเสียหายหรือรอยรั่ว
  • ซ่อมแซมอาคารระบายน้ำและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานเสมอ
  • ตรวจสอบคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำและปล่อยน้ำที่ไม่ใช้ประโยชน์ออกตามความเหมาะสม

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ แต่กรมชลประทานได้ดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบ เช่น :

  • การปล่อยน้ำที่ไม่ใช้ประโยชน์ออกจากเขื่อนเพื่อรักษาระบบนิเวศของแม่น้ำ
  • การสร้างบันไดปลาเพื่อให้ปลาสามารถว่ายทวนน้ำขึ้นไปวางไข่ได้
  • การสร้างเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเพื่อปกป้องสัตว์ป่าในบริเวณอ่างเก็บน้ำ

ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยสภาพแวดล้อมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่า เขื่อนวชิราลงกรณ์มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมากและสามารถบริหารจัดการได้อย่างยั่งยืน

ตัวเลขที่สำคัญ

  • ความสูงจากฐานราก : 91.45 เมตร
  • ความยาวตามสันเขื่อน : 715 เมตร
  • ความจุเก็บกักน้ำสูงสุด : 8,850 ล้านลูกบาศก์เมตร
  • กำลังผลิตไฟฟ้า : 720 เมกะวัตต์
  • พื้นที่ชลประทานที่รองรับ : กว่า 2 ล้านไร่

ตารางสรุป

ตารางที่ 1 : คุณสมบัติทางกายภาพของเขื่อนวชิราลงกรณ์

ลักษณะ ค่า
ประเภทเขื่อน เขื่อนคอนกรีตโค้งแบบความดันคู่
ความสูงจากฐานราก 91.45 เมตร
ความยาวตามสันเขื่อน 715 เมตร
ความจุเก็บกักน้ำสูงสุด 8,850 ล้านลูกบาศก์เมตร

ตารางที่ 2 : การผลิตไฟฟ้าของเขื่อนวชิราลงกรณ์

รายการ ค่า
กำลังผลิตไฟฟ้า 720 เมกะวัตต์
จำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 5 ชุด
ปริมาณการผลิตไฟฟ้าต่อปี ประมาณ 3,000 ล้านหน่วย

ตารางที่ 3 : ประโยชน์ของเขื่อนวชิราลงกรณ์

ประโยชน์ รายละเอียด
ผลิตพลังงานไฟฟ้า คิดเป็น 80% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคตะวันตก
ควบคุมน้ำ ป้องกันอุทกภัยและเพิ่มการไหลของน้ำในฤดูแล้ง
ส่งเสริมการเกษตรกรรม ชลประทานพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 2 ล้านไร่
ส่งเสริมการอุตสาหกรรม สนับสนุนการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
การท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

เคล็ดลับและเทคนิค

  • เยี่ยมชมเขื่อนวชิราลงกรณ์ในช่วงฤดูน้ำมากเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกเทียม
  • พักค้างคืนที่รีสอร์ทหรือบ้านพักในบริเวณใกล้เคียงเขื่อนเพื่อสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ
  • ล่องเรือในอ่างเก็บน้ำเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของเกาะและภูเขา
  • แวะชมพิพิธภัณฑ์เขื่อนวชิราลงกรณ์เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์และการทำงานของเขื่อน

วิธีการแบบทีละขั้นตอน

วิธีไปเขื่อนวชิราลงกรณ์

  1. ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 338 ประมาณ 250 กิโลเมตร
  2. เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 3281 ที่อำเภอทองผาภูมิ

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss