Position:home  

โดนแมวกัด! อย่าตื่นตระหนก ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ลดความเสี่ยงติดเชื้อ

การโดนแมวกัดเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เลี้ยงแมวหรือมีปฏิสัมพันธ์กับแมวอยู่เป็นประจำ แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่น่ารักและเป็นเพื่อนที่ดีของเรา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกมันมีความเสี่ยงที่จะนำพาเชื้อโรคบางอย่างมาสู่มนุษย์ได้ โดยเฉพาะการติดเชื้อจากการโดนแมวกัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

สาเหตุและอาการของการติดเชื้อจากการโดนแมวกัด

การติดเชื้อจากการโดนแมวกัดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักๆ ได้แก่

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย: เชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยที่สุดในน้ำลายแมว ได้แก่ เชื้อพาสเจอเรลลา (Pasteurella) เชื้อสตาฟิโลคอคคัส (Staphylococcus) และเชื้อสเตรปโตคอคคัส (Streptococcus)
  • การติดเชื้อไวรัส: ไวรัสที่สามารถติดต่อผ่านการโดนแมวกัดได้ ได้แก่ ไวรัสพิษสุนัขบ้า (Rabies virus) และไวรัสแมวข่วน (Cat scratch disease)

อาการของการติดเชื้อจากการโดนแมวกัดอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคที่ติด แต่โดยทั่วไปแล้ว อาการที่พบบ่อย ได้แก่

โดนแมวกัด

  • อาการอักเสบและบวมบริเวณที่โดนกัด: อาการบวมอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากโดนกัด
  • ปวดและแดงบริเวณที่โดนกัด: อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอาจมีอาการปวดบวมลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ
  • มีหนองไหลออกจากแผล: หนองที่ไหลออกจากแผลอาจมีสีขาวหรือสีเหลือง และอาจมีกลิ่นเหม็น
  • มีไข้: ไข้เป็นอาการหนึ่งที่บ่งบอกว่าเกิดการติดเชื้อรุนแรง
  • หนาวสั่น: หนาวสั่นเป็นอาการที่เกิดขึ้นร่วมกับไข้และเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อโดนแมวกัด

เมื่อโดนแมวกัดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการเกิดภาวะแทรกซ้อน

  1. ล้างแผลอย่างทั่วถึง: ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่เป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที
  2. กดเพื่อห้ามเลือด: หากแผลมีเลือดไหล ให้กดแผลด้วยผ้าสะอาดเพื่อห้ามเลือด
  3. ทายาฆ่าเชื้อ: หลังจากทำความสะอาดแผลแล้ว ให้ทายาฆ่าเชื้อ เช่น เบนซาคอน (Benzalkonium) หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide)
  4. ปิดแผลด้วยผ้าพันแผล: ปิดแผลด้วยผ้าพันแผลสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  5. สังเกตอาการ: สังเกตอาการของการติดเชื้อ เช่น บวม แดง ปวด หนอง หรือไข้ หากมีอาการเหล่านี้ ให้รีบไปพบแพทย์

การรักษาการติดเชื้อจากการโดนแมวกัด

โดนแมวกัด! อย่าตื่นตระหนก ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ลดความเสี่ยงติดเชื้อ

การรักษาการติดเชื้อจากการโดนแมวกัดขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคที่ติด แพทย์อาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือสั่งจ่ายยาต้านไวรัสเพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัส

ในกรณีที่แผลมีอาการรุนแรง แพทย์อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อทำความสะอาดแผลและเอาหนองออก นอกจากนี้ แพทย์อาจสั่งจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดและยาแก้อักเสบเพื่อลดอาการบวม

การป้องกันการติดเชื้อจากการโดนแมวกัด

มีหลายวิธีที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อจากการโดนแมวกัด ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้แมวที่ไม่คุ้นเคย: แมวที่ไม่คุ้นเคยอาจมีความเสี่ยงที่จะกัดได้ เนื่องจากพวกมันไม่คุ้นเคยกับมนุษย์และอาจรู้สึกกลัวหรือถูกคุกคาม
  • สอนเด็กๆ ให้เล่นกับแมวอย่างถูกวิธี: สอนเด็กๆ ให้เล่นกับแมวอย่างอ่อนโยนและไม่รุนแรง และหลีกเลี่ยงการแกล้งหรือรบกวนแมวขณะที่มันกำลังกินหรือนอนหลับ
  • หมั่นตัดเล็บแมว: การตัดเล็บแมวเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยขีดข่วนและการกัด
  • ป้องกันแมวไม่ให้กัด: หากแมวของคุณมีนิสัยชอบกัด ให้หาทางป้องกันแมวไม่ให้กัด เช่น จัดหาของเล่นให้แมวเล่น หรือใช้สเปรย์ฝึกแมวเพื่อสอนให้แมวรู้ว่าการกัดเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
  • รับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า: วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นไวรัสที่ร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการโดนแมวกัด

1. ฉันควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่หลังจากโดนแมวกัด?

  • คุณควรไปพบแพทย์ทันทีหากคุณโดนแมวที่ดุร้ายหรือแมวที่ไม่รู้จักกัด หรือหากแผลมีอาการรุนแรง เช่น บวม แดง ปวด หนอง หรือไข้

2. ฉันจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าหลังจากโดนแมวกัดหรือไม่?

โดนแมวกัด! อย่าตื่นตระหนก ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ลดความเสี่ยงติดเชื้อ

  • หากแมวที่กัดคุณไม่เป็นเจ้าของและมีประวัติพฤติกรรมก้าวร้าว คุณควรฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าโดยเร็วที่สุด

3. ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าแผลของฉันติดเชื้อ?

  • หากแผลของคุณมีอาการบวม แดง ปวด หรือมีหนองไหลออก ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเป็นสัญญาณว่าแผลติดเชื้อ
Time:2024-09-07 01:04:09 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss