Position:home  

ขนมครกใบเตย สูตรตำรับสยาม จากรุ่นสู่รุ่น

ขนมครกใบเตย ถือเป็นอาหารว่างโบราณที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องรสชาติหอมหวานกลมกล่อมและกลิ่นหอมของใบเตย ตามข้อมูลจากกรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า ขนมครกใบเตยเป็นขนมไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย โดยมียอดขายคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของยอดขายขนมไทยทั้งหมด

ประวัติความเป็นมาของขนมครกใบเตย

ขนมครกใบเตยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย โดยในสมัยโบราณขนมชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ ที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า กะทิ และน้ำตาล ทานคู่กับน้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิ ต่อมาเมื่อมีการเผยแพร่เข้ามาในประเทศไทย ขนมชนิดนี้ก็ได้รับการดัดแปลงให้มีลักษณะเป็นตัวกลมๆ ขนาดพอดีคำ และมีการเพิ่มใบเตยลงไปเพื่อให้มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์

ขนมครก ใบ เตย สยาม

ส่วนผสมและวิธีทำขนมครกใบเตย

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  • น้ำใบเตย 1 ถ้วย
  • กะทิ 1 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง น้ำตาลทราย และเกลือเข้าด้วยกันในชามขนาดใหญ่
  2. ค่อยๆ เติมน้ำใบเตยและกะทิลงในส่วนผสมแป้ง คนให้เข้ากันจนแป้งละลายและได้เนื้อเนียนเป็นเนื้อครีม
  3. ตั้งกระทะหลุมขนมครกให้ร้อน โดยใช้ไฟปานกลาง
  4. เมื่อกระทะร้อนได้ที่ ใส่น้ำมันพืชลงในหลุมเล็กน้อย จากนั้นเทแป้งลงในหลุมประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อหลุม
  5. ปิดฝากระทะและรอประมาณ 2-3 นาที หรือจนขนมครกสุกเหลืองกรอบทั่วทั้งตัว
  6. นำขนมครกออกจากกระทะและพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  7. เสิร์ฟขนมครกใบเตยพร้อมกับน้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิ

คุณค่าทางโภชนาการของขนมครกใบเตย

ขนมครกใบเตย สูตรตำรับสยาม จากรุ่นสู่รุ่น

ขนมครกใบเตย 1 ชิ้นน้ำหนักประมาณ 20 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการโดยประมาณดังนี้:

สารอาหาร ปริมาณ
พลังงาน 100 กิโลแคลอรี
โปรตีน 2 กรัม
ไขมัน 5 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
น้ำตาล 10 กรัม

ประโยชน์ของการรับประทานขนมครกใบเตย

การรับประทานขนมครกใบเตยในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้:

  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น: ขนมครกใบเตยมีเส้นใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องผูก และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้คล่องตัวขึ้น
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด: ขนมครกใบเตยมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ซึ่งช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล: ขนมครกใบเตยมีกะทิและเส้นใยอาหารที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยบำรุงสายตา: ขนมครกใบเตยมีวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น ต้อกระจกและต้อหิน

เคล็ดลับการทำขนมครกใบเตยให้อร่อย

  • ใช้แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ขนมครกมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและกรอบในเวลาเดียวกัน
  • ผสมแป้งให้ละลายและได้เนื้อเนียนเป็นเนื้อครีม เพื่อไม่ให้ขนมครกเป็นไตและมีรสสัมผัสที่ไม่เนียน
  • ควบคุมอุณหภูมิของกระทะให้ดี เพื่อไม่ให้ขนมครกรไหม้หรือสุกไม่ทั่วถึง
  • เสิร์ฟขนมครกใบเตยพร้อมกับน้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิที่ปรุงรสตามชอบ เพื่อเพิ่มรสชาติและความหอมหวาน

เรื่องเล่าขำขำเกี่ยวกับขนมครกใบเตย

  1. เรื่องที่ 1:

คุณยายท่านหนึ่งกำลังทำขนมครกใบเตยขายอยู่ที่ริมทาง โดยที่คุณยายแก่มากแล้วและสายตาไม่ค่อยดี วันหนึ่งมีเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งมาซื้อขนมครก คุณยายก็หยิบขนมครกใส่มือเด็กน้อยไปโดยไม่นับ แต่เด็กน้อยนับได้ 10 ชิ้น คุณยายก็บอกว่า "ถูกต้องแล้วลูก" เด็กน้อยก็วิ่งไปอย่างดีใจ แต่พอไปนับที่บ้าน กลับนับได้เพียง 9 ชิ้น จึงวิ่งกลับมาที่ร้านคุณยายและบอกว่า "คุณยาย ขนมครกขาดไป 1 ชิ้น" คุณยายจึงบอกว่า "อ๋อ! อีก 1 ชิ้นอยู่ในมือหลานไงลูก"

ข้อคิดที่ได้: การมองในแง่ดีและหาข้อได้เปรียบจากทุกสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญ

  1. เรื่องที่ 2:

ชายหนุ่มคนหนึ่งไปซื้อขนมครกใบเตยที่ตลาดแห่งหนึ่ง เมื่อเห็นขนมครกที่มีสีเหลืองทองสวยน่ากิน ก็อดใจไม่ไหวที่จะซื้อกลับไปกินที่บ้าน แต่พอไปถึงบ้าน เปิดกล่องออกมา ปรากฏว่าขนมครกทุกชิ้นมีแค่สีเหลืองข้างนอก ส่วนข้างในเป็นสีขาวจั๊ว แข็งเหมือนหิน ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งกลับไปที่ตลาดและบอกคนขายว่า "ขนมครกที่ซื้อไปมันแข็งเหมือนหินเลย" คนขายก็ตอบว่า "งั้นก็เอาไปปาใส่หมาสิ" ชายหนุ่มจึงเดินกลับบ้านอย่างเซ็งๆ แต่พอถึงบ้าน ก็หยิบหินมาปาใส่หมาจริงๆ แล้วหมาวิ่งหนีไปเลย ซึ่งจริงๆ แล้วที่คนขายบอกอย่างนั้นเพราะขนมครกยังไม่ทันเย็น แล้วมันแข็งจริงๆ

ขนมครกใบเตย สูตรตำรับสยาม จากรุ่นสู่รุ่น

ข้อคิดที่ได้: การฟังตามคำแนะนำของผู้อื่นโดยไม่คิดวิเคราะห์อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

เรื่องที่ 3:

เพื่อนสองคนไปกินขนมครกใบเตยที่ร้านแห่งหนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งชอบกินแบบกรอบๆ จึงสั่งขนมครกแบบกรอบ แต่เพื่อนอีกคนชอบกินแบบนิ่มๆ จึงสั่งขนมครกแบบนิ่ม พอขนมครกมาเสิร์ฟ คนที่สั่งแบบกรอบก็กินอย่างเอร็ดอร่อย แต่คนทีสั่งแบบนิ่มกลับกินไม่ได้ เพราะมันนิ่มจนเละไปหมด เพื่อนคนที่สั่งแบบกรอบจึงบอกว่า "ขนมครกของเรามันกรอบมากเลย" เพื่อนที่สั่งแบบนิ่มจึงพูดว่า "แล้วขนมครกของฉันมันก็เละมากเช่นกัน"

ข้อคิดที่ได้: แต่ละคนมีรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกัน จึงไม่ควรถูกตัดสินด้วยมาตรฐานเดียวกัน

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง при приготовленииขนมครกใบเตย:

  • ใช้แป้งข้าวเจ้าที่ไม่ละเอียด: ทำให้ขนมครกมีเนื้อสัมผัสที่หยาบและไม่เนียน
  • ใส่น้ำมากเกินไป: ทำให้ขนมครกเหลวและสุกไม่ทั่วถึง
  • คนแป้งแรงเกินไป: ทำให้ขนมครกเหนียวและไม่กรอบ
  • ควบคุมอุณหภูมิกระทะไม่ดี: ทำให้ขนมครกไหม้หรือสุกไม่ทั่วถึง
  • ใช้ภาชนะที่ไม่เหมาะสม: ทำให้ขนมครกติดภาชนะและทำให้
Time:2024-09-08 22:50:45 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss