อย่าทำสิ่งใดซ้ำสอง

ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตส่วนตัวหรือการทำงาน การที่เรามัวแต่ทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นการปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโตอย่างแท้จริง

การศึกษาของ Harvard Business Review พบว่า 80% ของพนักงานรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้บรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง เนื่องจากพวกเขาทำภารกิจเดิมๆ ซ้ำๆ ในแต่ละวัน การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้รู้สึกซ้ำซากจำเจ แต่ยังอาจนำไปสู่ความรู้สึกไม่เต็มอิ่มและไม่พึงพอใจอีกด้วย

ในทางกลับกัน การเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และความท้าทายคือกุญแจสู่การพัฒนาตนเองและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า

ทำไมการไม่ทำสิ่งใดซ้ำสองจึงสำคัญ

มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้การเลิกทำสิ่งต่างๆ ซ้ำๆ เป็นเรื่องสำคัญ:

• ช่วยพัฒนาความสามารถและทักษะของคุณ: เมื่อคุณออกจากเขตสบายและทดลองสิ่งใหม่ๆ คุณจะได้พัฒนาทักษะใหม่ๆ และปรับปรุงทักษะที่มีอยู่แล้ว
• ช่วยให้คุณก้าวหน้าในอาชีพการงาน: ผู้ที่มีความอยากรู้อยากเห็นและความเต็มใจที่จะก้าวออกจากกรอบมักจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานมากกว่าผู้ที่ทำเพียงสิ่งที่คุ้นเคย
• เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม: การเปิดรับประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และช่วยให้คุณคิดนอกกรอบ
• นำไปสู่ความพึงพอใจที่มากขึ้น: การท้าทายตัวเองและทำสิ่งใหม่ๆ จะช่วยเพิ่มความรู้สึกเป็นเจ้าของและความพึงพอใจในอาชีพการงานของคุณ

วิธีไม่ทำสิ่งใดซ้ำสอง

การเลิกทำสิ่งต่างๆ ซ้ำๆ อาจเป็นเรื่องยาก แต่เป็นไปได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:

1. ระบุสิ่งที่คุณทำซ้ำ: เริ่มต้นด้วยการสังเกตว่าคุณทำอะไรในแต่ละวันและหาสิ่งที่คุณทำซ้ำๆ
2. หาทางเลือก: เมื่อคุณระบุสิ่งที่ทำซ้ำๆ แล้ว ให้หาทางเลือกอื่นในการทำงานเหล่านั้น พิจารณาว่าคุณสามารถมอบหมายงาน จัดลำดับความสำคัญใหม่ หรือหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยได้หรือไม่
3. กำหนดเป้าหมายและความท้าทายใหม่ๆ: ตั้งเป้าหมายเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือรับผิดชอบโครงการใหม่ๆ ความท้าทายเหล่านี้จะช่วยให้คุณก้าวออกจากเขตสบายและเติบโต
4. เปิดรับข้อเสนอแนะ: ขอให้ผู้จัดการหรือเพื่อนร่วมงานให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถปรับปรุงและพัฒนาได้ ข้อเสนอแนะของพวกเขาสามารถช่วยให้คุณระบุจุดอ่อนและหาทางปรับปรุง
5. ติดตามความคืบหน้าของคุณ: การติดตามความคืบหน้าของคุณจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและรับผิดชอบ การบันทึกการพัฒนาหรือการตั้งเป้าหมายใหม่เป็นประจำจะช่วยให้คุณเห็นว่าคุณมาไกลแค่ไหนแล้ว

ประโยชน์ของการไม่ทำสิ่งใดซ้ำสอง

การเลิกทำสิ่งต่างๆ ซ้ำๆ มีประโยชน์หลายประการ เช่น:

• เพิ่มความมีส่วนร่วมและความพึงพอใจในงาน: เมื่อคุณได้รับความท้าทายและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คุณก็มีแนวโน้มที่จะรู้สึกมีส่วนร่วมและพึงพอใจในงานของคุณมากขึ้น
• เพิ่มขีดความสามารถในการจ้างงาน: ผู้ที่หลงใหลในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมักจะมีความสามารถในการจ้างงานสูงกว่าผู้ที่ไม่ใช่
• เพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง: การสำรวจของ LinkedIn พบว่า 94% ของผู้จัดการกล่าวว่าพวกเขาประทับใจผู้สมัครงานที่มีความหลงใหลในการเรียนรู้และพัฒนา
• เพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว: เมื่อคุณมีชุดทักษะที่หลากหลายและความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คุณจะสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ได้ดีขึ้น

เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ

มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับผู้ที่ได้ประโยชน์จากการไม่ทำสิ่งใดซ้ำสอง:

• วิศวกรที่กลายมาเป็นนักออกแบบ: วิศวกรซอฟต์แวร์คนหนึ่งพบว่าตัวเองกำลังทำงานเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน เขาจึงตัดสินใจเรียนการออกแบบในช่วงสุดสัปดาห์และเวลาว่าง ความรู้ใหม่ของเขาช่วยให้เขาสร้างแอปที่ใช้งานง่ายและประสบความสำเร็จมากขึ้น
• ผู้จัดการฝ่ายขายที่กลายมาเป็นผู้ประกอบการ: ผู้จัดการฝ่ายขายคนหนึ่งที่เบื่อหน่ายกับงานประจำของเธอ ตัดสินใจลาออกและเริ่มธุรกิจของตนเอง เธอใช้ทักษะการเจรจาและการสร้างความสัมพันธ์เพื่อสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
• นักบัญชีที่กลายมาเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจ: นักบัญชีคนหนึ่งที่เบื่อกับการตรวจสอบบัญชีและการเตรียมภาษี ตัดสินใจกลับไปเรียนและได้ใบอนุญาตเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ความรู้และประสบการณ์ใหม่ของเขาช่วยให้เขาช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

ตารางสรุป

ตารางที่ 1: ประโยชน์ของการไม่ทำสิ่งใดซ้ำสอง

ตารางที่ 2: ขั้นตอนไม่ทำสิ่งใดซ้ำสอง

ตารางที่ 3: ตัวอย่างเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ