Position:home  

ขนมปลาทอง : ขนมไทยจากธรรมชาติที่อัดแน่นไปด้วยประโยชน์

บทนำ

ขนมปลาทอง เป็นขนมไทยโบราณที่ได้รับความนิยมมาช้านาน ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักและรสชาติแสนอร่อย จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทุกเพศทุกวัย นอกจากความอร่อยแล้ว ขนมปลาทองยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

ความเป็นมาของขนมปลาทอง

ขนม ปลาทอง

ขนมปลาทองมีต้นกำเนิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเป็นขนมที่ใช้ถวายแด่พระมหากษัตริย์และเจ้านายชั้นสูงในวัง ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ขนมปลาทองได้แพร่หลายออกไปสู่ชาวบ้านทั่วไป จนกลายมาเป็นขนมไทยที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน

ส่วนผสมหลักของขนมปลาทอง

ส่วนผสมหลักของขนมปลาทอง ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล น้ำกะทิ และน้ำดอกอัญชัน ส่วนผสมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง

คุณค่าทางโภชนาการของขนมปลาทอง

ขนมปลาทอง 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรี และมีสารอาหารต่างๆ ดังนี้

  • คาร์โบไฮเดรต 50 กรัม
  • โปรตีน 2 กรัม
  • ไขมัน 1 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.1 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.05 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 10 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 15 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 1 มิลลิกรัม

ประโยชน์ต่อสุขภาพของขนมปลาทอง

ขนมปลาทอง : ขนมไทยจากธรรมชาติที่อัดแน่นไปด้วยประโยชน์

ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีสูง ทำให้ขนมปลาทองมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ได้แก่

บทนำ

  • บำรุงสมองและระบบประสาท วิตามินบี 1 และบี 2 ที่พบในขนมปลาทอง ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามินซีที่มีอยู่ในขนมปลาทอง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ
  • บำรุงกระดูกและฟัน แคลเซียมที่พบในขนมปลาทอง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • บำรุงเลือด เหล็กที่พบในขนมปลาทอง ช่วยบำรุงเลือดให้มีสุขภาพดี
  • บรรเทาความเครียด ขนมปลาทองมีส่วนช่วยในการบรรเทาความเครียดได้ เนื่องจากมีกลิ่นหอมจากดอกอัญชัน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลาย

การรับประทานขนมปลาทองอย่างเหมาะสม

แม้ว่าขนมปลาทองจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานในแต่ละวันคือ 3-4 ชิ้น

การทำขนมปลาทองแบบง่ายๆ

ส่วนผสม

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำกะทิ 1/2 ถ้วย
  • น้ำดอกอัญชัน 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย น้ำกะทิ และน้ำดอกอัญชันเข้าด้วยกันในชาม
  2. นวดจนส่วนผสมเข้ากันดี แป้งจะได้เหนียวนุ่ม
  3. แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ แล้วปั้นเป็นรูปปลาทอง
  4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน จากนั้นนำปลาทองลงทอดจนเหลืองสวย
  5. ตักปลาทองออกจากกระทะแล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  6. จัดเสิร์ฟพร้อมกับน้ำตาลทรายสำหรับโรย

เทคนิคการทำขนมปลาทองให้สวยงาม

  • เพื่อให้ปลาทองมีสีสวยงาม ให้ใช้น้ำดอกอัญชันคั้นสด
  • ปั้นปลาทองให้ได้รูปทรงที่สวยงามโดยการใช้นิ้วกดให้แบนเล็กน้อย
  • ทอดปลาทองในน้ำมันร้อนปานกลาง เพื่อให้สุกทั่วถึงโดยไม่ไหม้

สรุป

ขนมปลาทองเป็นขนมไทยโบราณที่มีทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการสูง ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก ทำให้ขนมปลาทองเป็นของว่างที่เหมาะสำหรับทุกคน หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ขนมปลาทองจะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี

ตารางคุณค่าทางโภชนาการของขนมปลาทอง

สารอาหาร ปริมาณต่อ 100 กรัม
พลังงาน 250 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 50 กรัม
โปรตีน 2 กรัม
ไขมัน 1 กรัม
วิตามินบี 1 0.1 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.05 มิลลิกรัม
วิตามินซี 10 มิลลิกรัม
แคลเซียม 15 มิลลิกรัม
เหล็ก 1 มิลลิกรัม

ตารางประโยชน์ต่อสุขภาพของขนมปลาทอง

ประโยชน์ สารอาหารที่เกี่ยวข้อง
บำรุงสมองและระบบประสาท วิตามินบี 1 และบี 2
เพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามินซี
บำรุงกระดูกและฟัน แคลเซียม
บำรุงเลือด เหล็ก
บรรเทาความเครียด กลิ่นหอมจากดอกอัญชัน

ตารางเทคนิคการทำขนมปลาทองให้สวยงาม

เทคนิค วิธีการ
ใช้ดอกอัญชันคั้นสด ทำให้ปลาทองมีสีสวยงาม
ปั้นให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ใช้ปลายนิ้วกดให้แบนเล็กน้อย
ทอดในน้ำมันร้อนปานกลาง ทำให้สุกทั่วถึงโดยไม่ไหม้

กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำขนมปลาทอง

  • เลือกใช้แป้งข้าวเจ้าคุณภาพดี แป้งข้าวเจ้าที่มีคุณภาพดีจะทำให้ขนมปลาทองนุ่มและเหนียวนุ่ม
  • ใช้ส่วนผสมที่สดใหม่ น้ำดอกอัญชันและกะทิที่สดใหม่จะช่วยให้ขนมปลาทองมีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดียิ่งขึ้น
  • ปั้นปลาทองให้ได้รูปทรงที่สวยงาม การปั้นปลาทองให้ได้รูปทรงที่สวยงามจะทำให้ขนมปลาทองดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
  • ทอดปลาทองในน้ำมันร้อนปานกลาง การทอดปลาทองในน้ำมันร้อนปานกลางจะช่วยให้ปลาทองสุกทั่วถึง โดยไม่ไหม้
  • พักปลาทองให้สะเด็ดน้ำมัน การพักปลาทองให้สะเด็ดน้ำมันจะช่วยลดความมันและทำให้ขนมปลาทองกรอบนานยิ่งขึ้น

เคล็ดลับและเทคนิคสำหรับการทำขนมปลาทอง

  • การปั้นปลาทอง หากแป้งแห้งเกินไปให้เติมน้ำทีละน้อย หากแป้งเหลวเกินไปให้เติมแป้งทีละน้อยจนได้แป้งที่เหนียวนุ่ม ปั้นปลาทองโดยใช้มือที่ชุบน้ำเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งติดมือ
  • การทอดปลาทอง ทอดปลาทองในกระทะทรงแบนเพื่อให้ปลาทองสุกทั่วถึง เมื่อปลาทองสุกแล้วให้รีบตักออกจากกระทะเพื่อป้องกันไม่ให้ไหม้
  • การพักปลาทองให้สะเด็ดน้ำมัน พักปลาทองบนกระดาษซับน้ำมันเพื่อช่วยลดความมันและทำให้ขนมปลาทองกรอบนานยิ่งขึ้น
  • การจัดเสิร์ฟ จัดเสิร์ฟปลาทองพร้อมกับ
Time:2024-09-08 11:14:59 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss