Position:home  

ขนมไทยล้ำค่า อัตลักษณ์ชาติไทยที่ไม่ควรสูญหาย

ขนมไทยถือเป็นหนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของชาติไทย ที่มาพร้อมเอกลักษณ์และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขนมแตง ซึ่งเป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมยาวนานมาแต่สมัยโบราณ มีความโดดเด่นด้วยรูปร่างคล้ายผลแตง และรสสัมผัสที่หวานละมุน

ประวัติความเป็นมาของขนมแตง

เชื่อกันว่าขนมแตงถือกำเนิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากขนมของโปรตุเกสที่นำเข้ามาในสมัยนั้น ด้วยการนำแป้งสาลีมาทอดแล้วราดด้วยน้ำเชื่อมหวาน ต่อมาได้มีการพัฒนาสูตรและรสชาติให้เข้ากับความชอบของคนไทย จนกลายมาเป็นขนมแตงอย่างที่เราพบเห็นในปัจจุบัน

วัตถุดิบและส่วนผสมของขนมแตง

ขนมแตงประกอบด้วยวัตถุดิบหลักดังนี้

ขนม แตง

  • แป้งสาลี (แป้งอเนกประสงค์)
  • ไข่ไก่
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำกะทิ
  • เกลือ
  • น้ำมันพืช

ขั้นตอนการทำขนมแตง

  1. เตรียมแป้ง ผสมแป้งสาลี ไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำกะทิ เข้าด้วยกันจนส่วนผสมเข้ากันดี และได้แป้งที่มีความเหนียวและยืดหยุ่นเล็กน้อย
  2. ตักแป้งลงในพิมพ์ นำแป้งที่เตรียมไว้ตักใส่ลงในพิมพ์ขนมแตง กดแบนให้แป้งเต็มพิมพ์ และเรียบเสมอกัน
  3. ทอดขนม ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช รอจนน้ำมันร้อนได้ที่ จากนั้นนำพิมพ์ขนมแตงใส่ลงไปทอด โดยจับให้ด้ามพิมพ์ตั้งตรงจนขนมสุกเป็นสีเหลืองทอง
  4. เตรียมน้ำเชื่อม โดยละลายน้ำตาลทรายในน้ำ ตั้งไฟเคี่ยวจนน้ำเชื่อมข้นขึ้นเล็กน้อย
  5. เคลือบขนม นำขนมแตงที่ทอดเสร็จแล้วลงไปเคลือบในน้ำเชื่อม รอจนน้ำเชื่อมซึมเข้าไปในตัวขนมจนหมด
  6. พักให้เย็น นำขนมแตงวางไว้บนตะแกรง พักให้เย็นลงจนน้ำเชื่อมเซ็ตตัว

ประโยชน์ของการรับประทานขนมแตง

แม้ว่าขนมแตงจะเป็นของหวาน แต่ก็ยังมีคุณค่าทางโภชนาการบางอย่าง เช่น

  • แหล่งพลังงาน ขนมแตงมีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่ร่างกายได้
  • วิตามิน B ขนมแตงที่ทำจากแป้งโฮลวีตมีวิตามิน B หลายชนิด เช่น วิตามิน B1 และ B2 ซึ่งมีบทบาทในการเผาผลาญอาหาร
  • แร่ธาตุ ขนมแตงอาจมีแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม และสังกะสี ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ทำ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับขนมแตง

  • ขนมแตงมีน้ำตาลสูง ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป
  • ขนมแตงอาจมีไขมันสูง หากทอดในน้ำมันที่ไม่ร้อนจนได้ที่ น้ำมันอาจซึมเข้าไปในตัวขนมได้
  • ขนมแตงมีแป้งสูง หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเฟ้อได้

Tips & Tricks ในการทำขนมแตงให้อร่อย

  • ใช้แป้งสาลีที่มีคุณภาพดี แป้งสาลีที่มีเกรดสูงจะทำให้ขนมแตงมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูยิ่งขึ้น
  • ตีแป้งให้ขึ้นฟู ก่อนที่จะตักแป้งลงในพิมพ์ ควรตีแป้งให้ขึ้นฟูเล็กน้อยเพื่อให้ขนมแตงมีเนื้อที่เบาและฟู
  • ทอดขนมในน้ำมันร้อน การทอดขนมในน้ำมันร้อนจะช่วยให้ขนมสุกอย่างรวดเร็ว ทำให้แป้งไม่ซึมน้ำมัน
  • เคลือบขนมด้วยน้ำเชื่อมทันที หลังจากที่ทอดขนมเสร็จแล้วให้รีบนำไปเคลือบด้วยน้ำเชื่อมทันที เพื่อให้ขนมซึมน้ำเชื่อมเข้าไปได้เต็มที่

ตารางเปรียบเทียบขนมแตงจากวัตถุดิบต่างๆ

วัตถุดิบ ข้อดี ข้อเสีย
แป้งสาลี หาซื้อง่ายทั่วไป อาจมีกลูเตน ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้
แป้งโฮลวีต อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ หาซื้อยากกว่าแป้งสาลี
แป้งข้าวเหนียว ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง ต้องใช้เทคนิคในการทำมากกว่าแป้งชนิดอื่น

ตารางประโยชน์และข้อควรรู้เกี่ยวกับขนมแตง

ประโยชน์ ข้อควรรู้
แหล่งพลังงาน มีน้ำตาลสูง
มีวิตามินบางชนิด อาจมีไขมันสูง
มีแร่ธาตุบางชนิด มีแป้งสูง

ตารางขั้นตอนการทำขนมแตง

ขั้นตอน วิธีการ
เตรียมแป้ง ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ตักแป้งลงในพิมพ์ กดแบนให้แป้งเต็มพิมพ์
ทอดขนม จับด้ามพิมพ์ให้ตั้งตรงจนขนมสุก
เตรียมน้ำเชื่อม ละลายน้ำตาลทรายในน้ำ แล้วเคี่ยวจนข้น
เคลือบขนม นำขนมลงไปเคลือบในน้ำเชื่อม
พักให้เย็น วางขนมไว้บนตะแกรงจนน้ำเชื่อมเซ็ตตัว

สรุป

ขนมแตงเป็นขนมไทยโบราณที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งรูปร่าง รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ แม้ว่าจะเป็นของหวาน แต่ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่างๆ เพียงแต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ และคำนึงถึงข้อควรรู้ต่างๆ ที่ได้กล่าวไว้ เพื่อให้ได้ทั้งความอร่อยและสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน

Time:2024-09-06 01:38:53 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss