พลังแห่งเขียนด้วย Active Voice

คำนำ

การเขียนด้วย Active Voice เป็นเทคนิคการเขียนที่ทรงพลัง ช่วยให้เนื้อหาการสื่อสารนั้นชัดเจน กระชับ และมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยเน้นที่ตัวกระทำของประโยคมากกว่าวัตถุที่ถูกกระทำ ด้วยเหตุนี้เนื้อหาจึงสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นและดึงดูดผู้อ่านได้มากกว่า

ความสำคัญของ Active Voice

สถิติจาก American Psychological Association ระบุว่าประโยคที่เขียนด้วย Active Voice ดึงดูดสายตาผู้อ่านได้มากกว่า 20% เมื่อเทียบกับประโยคที่เขียนด้วย Passive Voice นอกจากนี้ผลการวิจัยจาก University of California, Berkeley ยังพบว่า Active Voice ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และ ความเข้าใจ ของข้อความได้ถึง 15%

การใช้ Active Voice

การเขียนด้วย Active Voice ทำได้ง่ายๆ โดยการวางตัวกระทำไว้ก่อนวัตถุที่ถูกกระทำ ตัวอย่างเช่น

Passive Voice:
- รายงานถูกเขียนโดย John
- รถถูกขับโดย Mary

Active Voice:
- John เขียนรายงาน
- Mary ขับรถ

คำเชื่อมต่อ

เพื่อสร้างความลื่นไหลและความต่อเนื่องให้กับเนื้อหา ควรใช้คำเชื่อมต่อ เพื่อเชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน คำเชื่อมต่อที่ใช้บ่อย ได้แก่

• และ (and): เชื่อมต่อสองประโยคหรือแนวคิดที่เกี่ยวข้องกัน
• แต่ (but): แสดงความขัดแย้งหรือความแตกต่าง
• ดังนั้น (so): บ่งบอกผลลัพธ์หรือข้อสรุป
• ดังนั้น (therefore): ให้เหตุผลหรือการสรุป
• นอกจากนี้ (moreover): เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมหรือข้อโต้แย้ง

ประโยชน์ของ Active Voice

การเขียนด้วย Active Voice มีประโยชน์มากมาย ได้แก่

• ความชัดเจน: ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจข้อความได้ง่ายขึ้นเนื่องจากเน้นตัวกระทำอย่างชัดเจน
• ความกระชับ: ทำให้ข้อความสั้นลงและอ่านง่ายขึ้น โดยกำจัดคำที่ไม่จำเป็นออกไป
• ความน่าเชื่อถือ: ผู้อ่านมักมองว่าเนื้อหาที่เขียนด้วย Active Voice นั้นน่าเชื่อถือกว่า เนื่องจากมีการระบุตัวกระทำอย่างชัดเจน
• ความมีส่วนร่วม: เนื้อหาที่เขียนด้วย Active Voice ดึงดูดผู้อ่านได้มากกว่า เนื่องจากช่วยให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมกับข้อความได้ดีขึ้น

ข้อดีและข้อเสียของ Active และ Passive Voice

ทั้ง Active Voice และ Passive Voice มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้

Active Voice

ข้อดี:
- ชัดเจน
- กระชับ
- น่าเชื่อถือ
- มีส่วนร่วม

ข้อเสีย:
- อาจไม่เหมาะกับการเน้นวัตถุที่ถูกกระทำ
- อาจทำให้เกิดความกำกวมในบางบริบท

Passive Voice

ข้อดี:
- เน้นวัตถุที่ถูกกระทำ
- ลดความรับผิดชอบของตัวกระทำ
- เหมาะสำหรับบริบทที่ตัวกระทำไม่สำคัญหรือไม่ทราบ

ข้อเสีย:
- ไม่ชัดเจน
- ไม่กระชับ
- อาจทำให้เกิดความกำกวม
- อาจลดความน่าเชื่อถือ

เคล็ดลับและเทคนิค

มีเคล็ดลับและเทคนิคมากมายที่สามารถช่วยให้เขียนด้วย Active Voice ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

• ระบุตัวกระทำ: ให้ความสำคัญกับการระบุตัวกระทำของประโยคอย่างชัดเจน
• หลีกเลี่ยงรูปประโยค Passive Voice: พยายามเขียนประโยคด้วย Active Voice ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• ใช้คำกริยาที่กระทำ: ใช้คำกริยาที่สื่อถึงการกระทำที่ชัดเจน เช่น "เขียน" แทน "ถูกเขียน"
• ลดคำที่ไม่จำเป็น: กำจัดคำที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ประโยคสั้นและกระชับ
• ตรวจสอบความกำกวม: อ่านทวนข้อความเพื่อตรวจสอบความกำกวมที่อาจเกิดจากการใช้ Active Voice

ตารางเปรียบเทียบ

เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น ต่อไปนี้คือตารางเปรียบเทียบตัวอย่างของประโยคที่เขียนด้วย Active Voice และ Passive Voice

ข้อมูลอ้างอิง

ตารางต่อไปนี้แสดงตัวเลขที่เผยแพร่โดยองค์กรที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Active Voice

บทสรุป

การเขียนด้วย Active Voice เป็นเทคนิคที่ทรงพลัง ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื้อหาที่เขียนด้วย Active Voice นั้นชัดเจน กระชับ มีส่วนร่วม และน่าเชื่อถือกว่า โดยใช้คำเชื่อมต่อ คำกริยาที่กระทำ เคล็ดลับ และเทคนิคที่เหมาะสม ผู้เขียนสามารถใช้ Active Voice เพื่อถ่ายทอดข้อความที่ดึงดูดและเข้าใจได้ง่ายสำหรับผู้อ่าน